สสว.เผยผลสำเร็จพัฒนา SMEs ระดับเติบโตในกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญต่อเศรษฐกิจ ให้เข้าถึงมาตรฐานเพื่อรองรับตลาดสากล มุ่งสู่ SME SMART FORWARD พร้อมสร้างศักยภาพเร่งด่วนฟื้นฟูกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวดันมาตรฐาน THAILAND SURE 2020 เสริมความเชื่อมั่นผู้บริโภค คาดสร้างมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เปิดเผยว่า สสว. ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต (SME Regular Level) มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปี 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ระดับกลางหรือระดับเติบโตที่มีศักยภาพ และมุ่งเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ โดยดำเนินการร่วมกับ 14 หน่วยร่วม ประกอบด้วย
- สถาบันอาหาร (กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มและเกษตรแปรรูป)
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve เน้นกลุ่ม Green Business )
- สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว/โรงแรม/สปา เครื่องมือแพทย์/แปรรูปสินค้าประมงภาคใต้)
- สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (กลุ่มแฟชั่น สิ่งทอ ไลฟ์สไตล์)
- สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์)
- สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (กลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องการยกระดับมาตรฐาน)
- สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย (กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และโลหะ)
- สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ (กลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve ที่ต้องการยกระดับมาตรฐาน)
- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม (ภาคเหนือ)
- มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ธุรกิจการค้าและบริการ (ภาคใต้)
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (กลุ่มธุรกิจสร้างสรรค์)
- มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
- สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ โรงแรม และผู้ประกอบการขนส่ง)
- สมาคมสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย (เกษตรแปรรูป/ภาคบริการ)
ผอ.สสว. เผยอีกว่า ในปี 2563 สสว. ได้มุ่งเน้นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการยกระดับศักยภาพของธุรกิจให้เข้าถึงระบบมาตรฐาน ทั้งการตรวจประเมินเพื่อให้ได้รับใบรับรองมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของสากล พร้อมรับมือและปรับตัวกับวิถีธุรกิจ New Normal ในสถานการณ์โควิด-19
โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ ยกระดับธุรกิจหรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์ให้ก้าวไปสู่สากล ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริม SME ตามนโยบายรัฐบาล และเป็นไปตามพันธกิจของ สสว. ในการผลักดันการส่งเสริม SMEs ให้สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากล โดยได้ดำเนินการ อบรมเชิงปฏิบัติการเฉพาะด้านเพื่อเพิ่มศักยภาพของบุคลากรทางธุรกิจ เช่น อบรมผู้ควบคุมกระบวนการผลิตและแปรรูปอาหารในโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อให้ได้รับใบรับรองคุณสมบัติจากหน่วยงานที่ U.S. FDA ให้รับการยอมรับ ฯลฯ ให้คำปรึกษาเชิงลึกโดยที่ปรึกษา ณ สถานประกอบการ เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ โดยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในธุรกิจแยกตามรายกลุ่มอุตสาหกรรม ต่อยอดการพัฒนาเพื่อให้ได้รับมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ เช่น มาตรฐาน ISO มาตรฐานท่องเที่ยว มาตรฐานฉลากทางเลือกสุขภาพ มาตรฐานฉลากทางเลือกสำหรับหน้ากากผ้า ฯลฯ สนับสนุนการจัดทำฉลากโภชนาการ และตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ หรือสอบเทียบเครื่องมือวัดในโรงงานอุตสาหกรรม หรือตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น ตรวจวิเคราะห์มาตรฐานชุดป้องกัน (Personal Protective Equipment : PPE) หน้ากากผ้า ในช่วงสถานการณ์ โควิด – 19 เป็นต้น
“ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 สสว. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในครึ่งปีหลัง 2563 -2564 จึงได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เสนอกิจกรรมเร่งด่วน เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวแบบบูรณาการรองรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหลังสถานการณ์ COVID-19 ในชื่อ “THAILAND SURE 2020” โดยเน้น 7 กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวหลัก คือ
- มาตรฐานร้านของฝาก (SURE Souvenir Shop Standard)
- มาตรฐานที่พัก โรงแรม (SURE Accommodation Standard)
- มาตรฐานร้านอาหาร (SURE Restaurant Standard)
- มาตรฐานบริการขนส่งรถบัสและรถตู้ (SURE Bus and Van Standard)
- มาตรฐานตัวแทนการท่องเที่ยว บริษัทนำเที่ยว (SURE Travel Agency Standard)
- มาตรฐานของกลุ่มสปา และความงาม (SURE Spa & Beauty Standard)
- มาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว (SURE Tourist Attraction Standard)
ผู้ประกอบการในกลุ่มท่องเที่ยว ที่จะได้รับตรามาตรฐาน ดังกล่าว ต้องนำความรู้ไปปฏิบัติจริงในกิจการของ และที่สำคัญต้องผ่านการรับรองจากคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลงาน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงจะผ่านเกณฑ์การพิจารณา ได้รับตราสัญลักษณ์ “Thailand SURE 2020” จากสสว. และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย”
จากการดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต (SME Regular Level) ในปี 2563 ในภาพรวมทำให้เกิดผลลัพธ์ คือ 1. การปรับตัวของ SMEs ในรูปแบบวิถีธุรกิจแบบใหม่รองรับ New Normal ที่ต้องสามารถเชื่อมโยงและสร้างความมั่นใจด้านสุขอนามัย การใช้เทคโนโลยี การมีมาตรฐานและความปลอดภัย เพื่อตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และ 2. เกิดผลผลิตที่เป็นรูปธรรม อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีสะอาด (Clean Technology) Eco Design : ตอบโจทย์สิ่งแวดล้อม พัฒนาศักยภาพนวัตกรรมองค์กร (Innovation Organization) IOT DEMO รูปแบบจำลอง IOT Solution ผลิตภัณฑ์สปา ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปด้วยเทคโนโลยี และได้รับมาตรฐาน หรือใบรับรองสัญลักษณ์ทางโภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ” ผลิตภัณฑ์สิ่งทอแฟชั่นที่มีนวัตกรรม ได้รับมาตรฐานและรับรองฉลากต่าง ๆ อาทิ ISO / GMP / GMP Codex / HACCP / Smart Fabric / CoolMode / เสื้อประหยัดไฟเบอร์ 5 / Thailand Textiles Tag ผลิตสมุนไพรไทยจากธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์เครื่องเงิน รวมทั้งผู้ประกอบการที่ได้รับตรามาตรฐานความปลอดภัย Thailand SURE 2020 โดยรวมสามารถคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมผลักดัน SMEs ระดับเติบโตในโครงการก้าวสู่ SME SMART FORWARD
ในอนาคต
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-298-3282 และ 02-298-3047 และ www.sme.go.th Facebook : Osmep สสว.
ภาพบรรยากาศ