ขอต้อนรับปีใหม่ ด้วยบทความเก็บตกจากต่างแดน แบบฝ่าทะลุความหนาวผ่านหิมะขาวๆ มาให้ได้อ่านกัน สืบเนื่องมาจากการไปท่องเที่ยวพักผ่อนนับถอยหลังปี 2558 และต้อนรับปีใหม่ 2559 ถึงแดนอาทิตย์อุทัย ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในช่วงที่ไปก็อากาศหนาวเย็นพอประมาณ ในบางเมืองที่อยู่ใกล้ภูเขาก็ติดลบ แต่ในเมืองใหญ่ที่เป็นเมืองเศรษฐกิจอย่างโตเกียว ก็สบายๆ ประมาณ 10 องศาในตอนกลางวัน และต่ำกว่า 10 องศาในตอนกลางคืน

แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเก็บสาระสำคัญน่าสนใจจากต่างแดนมาฝากกัน ด้วยความบังเอิญอย่างที่สุด เมื่อจองโรงแรมที่พักล่วงหน้าผ่านบริการ Booking.com โดยไม่รู้มาก่อนว่าโรงแรมที่ไปพักนั้นมีความโดดเด่นเช่นไร แต่เมื่อเข้าไปเช็คอิน และได้รับฟังคำอธิบายถึงบริการต่างๆ ที่โรงแรมแห่งนี้มีให้ ต้องถึงกับอุทานว่า “สุโก้ย” ขึ้นมาทันใด เพราะไม่นึกว่าโรงแรมในใจกลางนครโตเกียวแห่งนี้ จะมีหลายอย่างที่พิเศษแบบที่ไม่สามารถหาได้ในโรงแรมอื่นๆ แม้แต่รีสอร์ทสไตล์ญี่ปุ่น (Ryokan) แนวธรรมชาติมากๆ ก็ยังไม่มีให้แบบนี้

โรงแรมที่ไปพักนี้ชื่อว่า Superhotel Lohas Akasaka ในความเป็นจริง ไม่ได้ตั้งใจจะจองโรงแรมนี้เลย แต่เป็นเพราะโรงแรมที่ใกล้สถานีรถไฟ JR เต็มหมด จึงจำใจต้องใช้บริการที่แห่งนี้ ซึ่งอยู่ในย่านที่ไม่คุ้นเคยและไม่มีสถานที่เที่ยวน่าสนใจเลย อีกทั้งยังต้องเดินทางไปด้วยรถไฟใต้ดิน (Subway) ทำให้เราต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก

ที่บอกว่า “สุโก้ย” จนต้องเขียนแนะนำนั้น เพราะทันทีที่เข้าถึงห้องพัก ต้องตะลึงกับรางวัลมากมายที่โรงแรมแห่งนี้ได้รับ ถึงขนาดจัดทำเป็นเอกสารรูปเล่มสวยงามหนาร่วม 20 หน้า เพื่ออธิบายว่าได้รับรางวัลอะไรบ้างจากการบริการจัดการที่แตกต่างจากที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อย้อนกลับไปในอดีต จะพบว่ากิจการแห่งนี้เริ่มก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1890 โดย Yamashite Yogen ในเมืองใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่น (เรียงตามจำนวนประชากร) คือ โอซากา (อันดับ 1 คือ โตเกียว และอันดับ 2 คือ โยโกฮามา) ในตอนนั้นเป็นธุรกิจค้าขายสิ่งทอ และเริ่มขยับขยายธุรกิจมาสู่การให้บริการห้องพักแบบแมนชั่นจนมาเป็นโรงแรมในที่สุด ในปี 1996 Super Hotel Hakata ตั้งอยู่ในเมืองฟุกุโอกะ ถือได้ว่าเป็นโรงแรมแห่งแรกของเครือ “Super” ที่ก่อตั้งขึ้น จนถึงปัจจุบันโรงแรมเล็กๆ ที่นำหน้าด้วยคำว่า Super มีมากมายนับร้อยอยู่ในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น และถือว่าเป็นเครือโรงแรม (Chain) ที่มีชื่อเสียงในราคาที่ไม่แพง

เครือโรงแรม “Super” มีการพัฒนาระบบการบริหารจัดการตามลำดับ และที่โดดเด่นมากๆ คือการบริการลูกค้า และนำความต้องการลูกค้ามาสู่การปรับปรุงการบริการ จนในปี ค.ศ. 2008 ได้รับรางวัลระดับภูมิภาค The Kansai Management Quality Award ในประเภท Innovation Award และได้รับรางวัล Japan Quality Award (JQA) ในปีถัดมา ค.ศ. 2009 ในประเภทธุรกิจขนาดเล็ก (Small business category) ในฐานะที่เป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่นในการสร้างสรรค์คุณค่าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้เป็นอย่างดี (For outstanding innovation and customer services)

ตัวอย่างที่ผมได้สัมผัส สอบถาม และพูดคุยโดยตรงกับเจ้าหน้าที่โรงแรมคือ สิ่งอำนวยความสะดวก นอกจากมาตรฐานญี่ปุ่นทั่วไปแล้ว ยังมีบ่อน้ำร้อนแช่ตัว (Hot bath) ขนาดพอสมควรที่ให้ลูกค้าได้แช่ตัวพร้อมกันครั้งละหลายๆ คน บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยเปิดเป็นช่วงเวลาสลับกันทั้งวัน ระหว่างชายและหญิงรอบละ 2 ชั่วโมง ถ้าท่านใดเคยใช้หรือเคยได้ยินคำว่า ออนเซ็น (Onsen) คงนึกภาพตามได้ ที่ต้องเปลื้องผ้าแช่ตัว แบบไม่มีใครสนใจใคร แต่ออนเซ็นทั่วไปจะหมายถึงบ่อน้ำแร่ธรรมชาติมากกว่า

และยังมีหมอนญี่ปุ่นแบบต่างๆ ที่ภายในบรรจุด้วยวัสดุที่ต่างกัน 8 แบบ ตั้งแต่นุ่ม จนถึงแบบค่อนข้างแข็ง วางไว้บริเวณชั้นล่าง ให้ผู้เข้าพักแต่ละคนเลือกหยิบสลับไปใช้ได้ในแต่ละคืน ตามความต้องการเพิ่มเติม (ภายในห้องพักมีหมอนมาตรฐานบริการอยู่แล้ว)

ห้องนอนทุกห้องใช้ประตูอิเล็กทรอนิกส์ เข้าห้องด้วยการคีย์รหัส และรหัสนั้นยังใช้เข้าไปในห้องแช่ตัวด้วย ทุกชั้นมี Free Wifi สัญญาณแรงทีเดียว และเครื่องฟอกอากาศประจำทุกห้อง บริการของเจ้าหน้าที่ไม่ต้องพูดถึง เยี่ยมยอดและสุภาพมากๆ

นอกจากนั้นโรงแรมนี้ยังได้รับรางวัล JCSI (Japan Customer Satisfaction Index) อันดับ 1 ของโรงแรมประเภท Business hotel และรางวัลอันดับ 1 จากการสำรวจความพึงพอใจของผู้เข้าพัก โดย JD Power ทั้งสองรางวัลได้รับในปี 2014 ฉบับหน้ามาเก็บตกเรื่องราวจากต่างแดนอีกสักตอนครับ