31 October 2016

ภารกิจแรกของ ดร.สันติ กนกธนาพร อดีตผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ในการเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการองค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย หรือ Asian Productivity Organization (APO) ในงานประชุม Workshop Meeting of Heads of National Productivity Organizations  (WSM) ครั้งที่ 57 โดยมีผู้นำจากประเทศสมาชิก  (National Productivity Organizations: NPOs) 19 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเข้าร่วมประชุม เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2559 ณ เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย ซึ่งท่านได้กล่าวถึงจุดมุ่งหมายขององค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชียในการก้าวไปสู่อนาคตด้วยการนำเทคโนโลยีให้ข้ามามีบทบาทสำคัญ เพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมาย “Vision 2020” และยังช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศสมาชิก ทั้งการเพิ่มผลิตภาพและขีดความสามารถทางการแข่งขันในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

wsm2016_groupphoto

ดร.สันติ ได้กล่าวถึง “ICT for Smart” ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักในการบรรลุ “Vision 2020” ไว้ว่า ในโลกดิจิทัลที่ทุกอย่างเชื่อมต่อกันอย่างเป็นวงกว้างนั้น ข้อมูลสารสนเทศที่ไหลเวียนในระบบสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่าการนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ (Global Goods Trade) “การซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศก็มีการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นส่วนหนึ่งด้วย ดังนั้นเทรนด์เศรษฐกิจดิจิทัลในระดับโลกจึงมีแต่จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ”

เลขาธิการองค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชียเน้นย้ำถึงความสำคัญในการร่วมมือกันระหว่าง APO และ NPOs เพื่อช่วยให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ร่วมกันพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพื่อตอบรับกับกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Internet of Things หรือ การริเริ่มโครงการอัจฉริยะ (Smart Initiative) สำหรับภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม และภาคบริการ

ดาโต๊ะ เสรี ออง คา ชวน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมคนที่สองของประเทศมาเลเซีย องค์ปาฐก ได้ชี้ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการเพิ่มผลิตภาพว่า เป็นแนวทางที่จะช่วยพลิกโฉมเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 21 “แม้ว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 จะเพิ่งเริ่มเกิดขึ้น  แต่ทว่ากำลังส่งผลต่อวิถีการทำงาน การใช้ชีวิต และการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน หน่วยงานด้านการเพิ่มผลิตภาพ จึงมีบทบาทสำคัญอย่างมากที่จะผลักดันให้มีการนำปัจจัยต่างๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านการเพิ่มผลิตภาพ”

ดาโต๊ะ เสรี ออง คา ชวน ยังได้เน้นย้ำ ให้ผู้แทนประชุม WSM ได้ตระหนักถึงการริเริ่มใหม่ๆ ตลอดจนสร้างกรอบการดำเนินงานที่ยกระดับการเพิ่มผลิตภาพในกลุ่มประเทศสมาชิกให้ดียิ่งขึ้น “ในฐานะผู้นำในการเพิ่มผลิตภาพของแต่ละประเทศ หน้าที่อันหลีกเลี่ยงไม่ได้ของท่านคือการเพิ่มผลิตภาพเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ การประชุมในครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่ทุกท่านจะได้ประเมินและพิจารณาความสามารถในการบรรลุเป้าหมายให้สัมฤทธิ์ผล”

ผลจากการสนับสนุนของ APO เพื่อขยายโอกาสการสร้างความร่วมมือและยกระดับสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมในกลุ่มประเทศสมาชิก Tan Sri Azman Hashim, APO Director ประเทศมาเลเซีย ได้ยกตัวอย่างว่า “สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งมาเลเซีย ประสบความสำเร็จในการนำกรอบการบริหารจัดการองค์กรที่เป็นเลิศมาใช้ในองค์กรต่างๆ เพื่อกระตุ้นการเพิ่มผลิตภาพของประเทศ ตามแนวทางของศูนย์แห่งความเป็นเลิศ (APO Center of Excellence) ด้านการจัดการองค์กรที่เป็นเลิศที่จัดตั้งในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา มีองค์กรธุรกิจเกือบ 4,000 แห่งของประเทศที่นำแนวทางการบริหารจัดการองค์กรที่เป็นเลิศไปใช้จนประสบความสำเร็จ”

การประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศสมาชิก  19 ประเทศ ผู้แทนด้านการเกษตรและที่ปรึกษา ตลอดจนผู้สังเกตการณ์จากองค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ OECD, UNESCAP, ILO

opening-session-wsm2016

เรียงลำดับจากซ้ายไปขวา

  1. ดาโต๊ะ Mohd Razali Hussain, ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งมาเลเซีย (Malaysia Productivity Corporation)
  2. Tan Sri Azman Hashim, ผู้อำนวยการองค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชียประจำประเทศมาเลเซีย (APO Director for Malaysia)
  3. ดาโต๊ะ เสรี ออง คา ชวน, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมมาเลเซียคนที่สอง
  4. ดร.สันติ กนกธนาพร, เลขาธิการองค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย



Writer

โดย ส่วนสื่อสารองค์กร