การคิดเชิงระบบ เป็นรูปแบบการคิดปัญหาเกิดจากหลายปัจจัยในระบบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อกันเป็นวงรอบในลักษณะของปัจจัยต้นเหตุและปัจจัยที่ได่รับผลกระทบ ทำให้การจัดการปัญหาต้องเริ่มจากทำความเข้าใจรูปแบบความผิดปกติที่เกิดขึ้น จากนั้นวิเคราะห์หาปัจจัยที่เป็นสาเหตุ และระบุความสัมพันธ์ของแต่ละปัจจัย เพื่อออกแบบแนวทางจัดการปัญหาทั้งระบบ โดยมีเป้าหมายคือ ลดการเกิดปัญหาซ้ำๆ และปรับเปลี่ยนโครงสร้างการดำเนินงานใหม่ World Economic Forum กล่าวว่า การแก้ปัญหาซับซ้อน เป็นทักษะอนาคตที่สำคัญ สำหรับบุคลากร ซึ่งต้องใช้ทักษะการคิดเชิงระบบ เพื่อใช้รับมือปัญหาที่จะเกิดขึ้นในองค์กร จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสมัยใหม่ และการขยายตัวของธุรกิจ ซึ่งการแกัปัญหาซับซ้อน เนื่องจากทักษะการคิดเชิงระบบ ทำให้เข้าใจประเมินสถานการณ์ การจัดการเชิงกลยุทธ์ และการสร้างสรรค์ แนวทางในมุมมองใหม่ๆ ทำให้ระบบการสามารถจัดการปัญหาที่ซับซ้อนขององค์กร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหลักสูตรได้ออกแบบกิจกรรมและกรณีศึกษาส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติทักษะอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบกับได้ฝึกใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น การตั้งคำถาม การเขียนแผนผังวงรอบเหตุและผล เป็นต้น เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในการทำงาน โดยจะได้รับการแนะนำอย่างใกล้ชิดจากผู้สอน

ประโยชน์ของหลักสูตร

1. องค์กรได้แนวทางการจัดการปัญหาเชิงโครงสร้าง หรือปัญหาที่เกิดซ้ำ อย่างเป็นระบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของดำเนินงานขององค์กร ให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด
2. องค์กรได้แนวทางในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อวางแผนการดำเนินงานทั้งระบบ ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด และสามารถจัดการความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
3. ผู้เรียนได้พัฒนาศักยภาพ ในด้านการวิเคราะห์ปัญหาซับซ้อน และออกแบบแนวทางจัดการอย่างสร้างสรรค์

แนวทางการเรียนรู้

1. เน้นภาคทฤษฎีและหลักการ 30% และองค์ความรู้ด้านเทคนิคในภาคปฏิบัติ 70% ทั้งกรณีศึกษาตัวอย่าง และ กรณีศึกษาจริงจากผู้เรียน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ และทักษะที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง โดยผู้เรียนจะได้ฝึกปฏิบัติผ่านกิจกรรมกลุ่ม ทำให้ได้แลกเปลี่ยนมุมมองหาแนวทางการแก้ไขปัญหารวมกันอย่างสร้างสรรค์ และกระตุ้นให้เกิดการนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ที่แตกต่าง
2. ผู้สอนจะให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ในแต่ละกลุ่มผู้เรียน เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างแท้จริง และกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนรวมในการแสดงความคิดเห็น และปฏิบัติ

จำนวนผู้เข้าอบรม : 30   คน

กำหนดการอบรม

อุปกรณ์ประกอบการอบรม :  เครื่อง LCD PROJECTOR , กระดานไวท์บอร์ด หรือ FLIP CHART และปากกาเคมี

ราคาค่าบริการ

วันจันทร์-วันศุกร์ ราคาวันละ 30,000 บาท

วันเสาร์-อาทิตย์ ราคาวันละ 37,500 บาท

ราคานี้ไม่รวมค่าเดินทาง ค่าที่พัก (ถ้ามี) และยังไม่รวมค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม

ราคารวมเอกสารประกอบการอบรม 30 ชุด

การชำระค่าธรรมเนียม

ธนาคารกรุงเทพ สาขาอาคารยาคูลท์ สนามเป้า ชื่อบัญชี “มูลนิธิเพื่อสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ”

เลขที่ 210-0-50861-9 สถาบันอยู่ในระบบ VAT 7% และสถาบันได้รับยกเว้นการหักภาษี ณ ที่จ่าย 3%

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0994000020724

ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม สามารถลดหย่อนภาษีได้ 200% ตามประกาศ พ.ร.บ. ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน