องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย หรือ Asian Productivity Organization (APO) ร่วมกับสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ สถาบันเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหนึ่งใน 19 หน่วยงานเพิ่มผลผลิตแห่งชาติของประเทศสมาชิก องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย จัดโครงการ “Asian Forum on Smart Agriculture: Futuristic Technologies for Sustainable Farming” ณ สถาบันพัฒนาผู้นำ เครือเจริญโภคภัณฑ์ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 6 – 9 พฤศจิกายน 2560
ในโอกาสนี้ คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ให้เกียรติขึ้นกล่าวปาฐกถาในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2560 ในหัวข้อ Future Agriculture โดยกล่าวถึงประเด็นสินค้าเกษตรในประเทศกำลังพัฒนาที่ต้องเร่งให้ความสำคัญ
“ประเทศกำลังพัฒนายังไม่เข้าใจว่า สินค้าเกษตรเป็นน้ำมันบนดิน เป็นทรัพย์สมบัติของชาติ จึงกลายเป็นคำถามว่าทำไมสินค้าจากภาคเกษตรกรรมที่หล่อเลี้ยงชีวิตของมนุษย์ ถึงมีราคาถูกมาก โดยเฉพาะในประเทศด้อยพัฒนา ทุกคนจึงต้องคิดกลับกันในการปกป้องสินค้าเกษตรไม่ให้ต่ำลง เราควรให้ความสำคัญว่าจะทำอย่างไรให้มูลค่าของมันสูงขึ้น ซึ่งถ้าหากว่าเราทำความเข้าใจว่าสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพดี เป็นทรัพย์สมบัติของชาติ ก็จะช่วยเกษตรกรได้มากยิ่งขึ้น”
คุณธนินท์ยังได้กล่าวถึงอนาคตของภาคเกษตรกรรมเพื่อต้อนรับการมาถึงของ “อุตสาหกรรม 4.0”
“การจะพัฒนาไปสู่ยุค 4.0 ต้องนำคนใหม่ๆ เข้ามาคิดค้นเรื่องใหม่ๆ ว่าเราจะทำอย่างไรเพื่อพร้อมรับมือกับโลกที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว”
รวมทั้งยังเน้นย้ำถึงภารกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการมองเห็นอนาคตของภาคเกษตรกรรม ที่ต้องทำธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน
“เราจำเป็นต้องพัฒนามาตั้งแต่ต้นน้ำ เพราะหากพูดถึงเรื่องสุขภาพแล้ว ต้องพิจารณาย้อนกลับไปได้ ทั้งเรื่องการเพาะปลูก การใช้ยาฆ่าแมลง จนถึงการทำลายสิ่งแวดล้อม บางครั้งไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่หรือรายย่อย สัตว์เลี้ยงหรือพันธุ์พืชก็จะติดเชื้อโรคมา จนไม่มีความปลอดภัย หรือแม้กระทั่งเรื่องสิทธิมนุษยชนก็ด้วยเช่นกัน เครือเจริญโภคภัณฑ์จึงจะส่งเสริมความปลอดภัยตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ คือจนถึงบนโต๊ะอาหารของผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
อีกทั้ง ดร.พานิช เหล่าศิริรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ในฐานะ APO Alternate Director for Thailand ร่วมเป็นผู้ดำเนินรายการในช่วงการตอบคำถาม รวมทั้งยังได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.กล้าณรงค์ ศรีรอต กรรมการ บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ“Public and Private Partnership in Driving National Agricultural Policy”
สำหรับโครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้กำหนดนโยบายระดับสูงในองค์กร นักวางแผน ผู้เชี่ยวชาญของตัวแทน 19 ประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชีย ได้แลกเปลี่ยนความรู้ในการนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตมาใช้เพิ่มศักยภาพในด้านการเพิ่มผลิตภาพภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการพัฒนาท้องถิ่น และการเติบโตของเศรษฐกิจแบบมีส่วนร่วม (Inclusive Growth) ผ่านการเพิ่มผลิตภาพภาคการเกษตร ตลอดจนสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) ในภาคการเกษตร
.