นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (Innovation for Sustainability)
โดย คุณจำลักษณ์ ขุนพลแก้ว ที่ปรึกษาด้านนวัตกรรมและการจัดการองค์กร
Innovation for Sustainability เป็นหัวข้อที่สำคัญและได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นตัวเร่งสำคัญสู่การสร้างนวัตกรรมที่ให้ผลลัพธ์แบบก้าวกระโดด ในขณะเดียวกันสภาพเปลี่ยนแปลงของโลกที่เลวร้ายลงเป็นตัวกำกับเป้าหมายให้ไปในแนวทางที่ไม่ก่อให้เกิดผลทางลบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาเพื่อความยั่งยืนจึงกลายเป็นเป้าหมายสูงสุด (Ultimate Goal) ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถการแข่งขันที่ทุกประเทศในโลกยึดถือและปฏิบัติ ดังรูป
ความแตกต่างระหว่างนวัตกรรมเพื่อสังคมและนวัตกรรมทางธุรกิจอยู่ที่จุดมุ่งหมายและผลที่ต้องการ นวัตกรรมทางธุรกิจมุ่งเน้นที่การสร้างความสำเร็จทางธุรกิจและการสร้างกำไร โดยทำให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่นวัตกรรมเพื่อสังคมมุ่งเน้นที่การสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสังคมและชุมชน โดยทำให้มีผลต่อความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของคนในสังคม นอกจากนี้นวัตกรรมเพื่อสังคมมักมีลักษณะที่เป็นการทำงานร่วมกับหลายภาคส่วนของสังคม รวมถึงรัฐบาล ภาคธุรกิจเอกชน และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ในขณะที่นวัตกรรมทางธุรกิจมักมุ่งเน้นที่การสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สามารถวัดได้โดยตรงผ่านผลกำไรและผลตอบแทนทางการเงินเป็นหลัก
นวัตกรรมเพื่อสังคม (Social innovation) หมายถึงกระบวนการหรือผลิตภัณฑ์ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสังคมหรือชุมชน โดยมุ่งเน้นที่การแก้ไขปัญหาสังคมหรือสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อคนหรือชุมชนโดยตรง เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดความยากจน, การสร้างโครงสร้างการศึกษาที่มีคุณภาพสูงในพื้นที่ที่ขาดแคลน, หรือโครงการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในชุมชนท้องถิ่น เป้าหมายหลักของนวัตกรรมเชิงสังคมคือการสร้างผลประโยชน์ที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของคนหรือชุมชนทั้งโดยตรงและอ้อม ๆ ไปถึงการพัฒนาทางอารมณ์และความเข้าใจในกลุ่มเป้าหมาย
SDGs (Sustainable Development Goals) หรือเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน คือเป้าหมายที่ถูกกำหนดโดยองค์การสหประชาชาติ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ โดยมีทั้งหมด 17 เป้าหมาย ในขณะที่ ESG (Environment, Social, and Governance) คือกรอบการประเมินความยั่งยืนของธุรกิจหรือองค์กรในด้านสิ่งแวดล้อม (Environment), สังคม (Social), และการบริหารจัดการ (Governance) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการวัดผลและการประเมินความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนขององค์กรทางธุรกิจ
ความสัมพันธ์ระหว่าง SDGs ขององค์การสหประชาชาติ และ ESG ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกิดขึ้นเนื่องจากการนำเสนอภาพรวมของความยั่งยืนทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการที่ดีของธุรกิจ โดยองค์การสหประชาชาติได้กำหนด SDGs เป็นเป้าหมายการพัฒนาที่จะช่วยสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทั้งระดับโลก ในขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด ESG เพื่อสนับสนุนการลงทุนในธุรกิจที่มีความรับผิดชอบทางสังคม สิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการอย่างมีความรับผิดชอบ การนำ SDGs และ ESG มาเชื่อมโยงกันช่วยสร้างความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของธุรกิจและสังคม
เพื่อให้บรรลุนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนภายใต้กรอบการทำงาน SDG สามารถใช้วิธีการต่อไปนี้
🔰 ความร่วมมือ – การสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาล ธุรกิจ สถาบันการศึกษา ภาคประชาสังคม และชุมชนท้องถิ่นสามารถส่งเสริมโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมและส่งเสริมการแบ่งปันความรู้
🔰 การสนับสนุนนโยบาย – รัฐบาลสามารถสร้างนโยบายและกฎระเบียบที่จูงใจให้เกิดนวัตกรรมที่ยั่งยืน เช่น การให้เงินช่วยเหลือ สิทธิประโยชน์ทางภาษี และการสนับสนุนสำหรับการวิจัยและพัฒนา
🔰 การศึกษาและการตระหนักรู้ – การส่งเสริมการศึกษาและความตระหนักรู้เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนและประโยชน์ของนวัตกรรมสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้บุคคลและองค์กรต่างๆ นำพฤติกรรมที่ยั่งยืนมาใช้และพัฒนาโซลูชันที่เป็นนวัตกรรม
🔰 การให้ทุนและการลงทุน – การจัดสรรเงินทุนและการลงทุนไปสู่นวัตกรรมที่ยั่งยืนสามารถให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับการวิจัย การพัฒนา และการนำโซลูชันที่ยั่งยืนไปใช้
การเปิดรับนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนทำให้เราสามารถรับมือกับความท้าทายเร่งด่วนระดับโลกที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบันและทำงานไปสู่อนาคตที่สดใสขึ้น
สำหรับการสร้างแบบประเมินตนเองขององค์กรในประเทศไทย สามารถใช้โครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับหลักการ ESG ดังนี้
➡️ คำถามเพื่อประเมินระดับการดำเนินการทางด้าน Environment:
- การจัดการกับการปล่อยมลพิษ
- การลดการใช้พลังงานและการอนุรักษ์พลังงาน
- การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ
- การป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อม
- การสร้างนโยบายและกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
➡️ คำถามเพื่อประเมินระดับการดำเนินการทางด้าน Social:
- การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์
- ความเท่าเทียมและความเป็นธรรม
- การสร้างความเข้าใจและการสนับสนุนกิจกรรมในชุมชน
- การสร้างโอกาสและการส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร
- การมีส่วนร่วมในกิจกรรมสังคม
➡️ คำถามเพื่อประเมินระดับการดำเนินการทางด้าน Governance:
- การจัดการที่มีความโปร่งใสและความคล่องตัว
- การสร้างนโยบายและกฎเกณฑ์ที่เป็นมิตรต่อผู้มีส่วนได้เสีย
- การบริหารจัดการความเสี่ยงและการควบคุม
- การสร้างระบบการตรวจสอบและการรายงาน
- การสร้างความเชื่อมั่นและการสนับสนุนการปฏิบัติตามกฎหมาย
แต่ละคำถามสามารถปรับแต่งได้ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และลักษณะขององค์กรของคุณ และควรให้คำตอบเป็นรายละเอียดเพื่อให้สามารถประเมินระดับการดำเนินการขององค์กรได้อย่างแม่นยำและครอบคลุม
💭 ปี ค.ศ. 2018 และ 2019 โครงการ Process Innovation and Improvement for Operational Excellence โดยการสนับสนุนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกิดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักให้กับผู้ประกอบการในการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ตลอดจนพัฒนาบริษัทจดทะเบียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินหุ้นยั่งยืนและการประเมิน ESG rating ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คลิก
ตัวอย่างบทสรุปต้นแบบองค์กรที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาสู่ความยั่งยืน (Sustainability Business Role Model) ผ่านการสร้างนวัตกรรมกระบวนการ (Process Innovation) โดยผมและวิทยากรที่ปรึกษาของสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ร่วมกับศูนย์พัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จาก 10 บริษัทจดทะเบียนที่ผ่านการคัดเลือก มีดังนี้
💡 กรณีศึกษา บมจ. ผลิตภัณฑ์ตราเพชร VDO นาทีที่ 20:40 บริษัทได้นำเสนอผลการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมธุรกิจ แนวโน้มความต้องการของโลก และความท้าทายในการแข่งขัน สู่การพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจและการส่งเสริมนวัตกรรมภายในองค์กร
💡 กรณีศึกษา บมจ. ลีซ อิท VDO นาทีที่ 22:30 บริษัทได้นำเสนอแนวทางการสร้างนวัตกรรมในองค์กร ที่เป็นกลยุทธ์สำคัญในการทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืนขององค์กรจากการเข้าร่วมโครงการ และ Process Innovation ที่ได้รับคำแนะนำจากผมและวิทยากรที่ปรึกษาของสถาบัน ชื่อโครงการ Digital Credit Scoring (รายละเอียด) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสู่การพิจารณาสินเชื่อด้วย AI ในอนาคต
จากกรณีตัวอย่าง การเริ่มต้นด้วยการกระตุ้นจิตสำนึกและสร้างการมีส่วนร่วมในการคิดสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมในองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) สามารถทำได้โดยใช้แนวคิดและวิธีการต่อไปนี้
✅ บรรยากาศที่เกื้อหนุน ด้วยการสร้างบรรยากาศที่สนับสนุนการคิดสร้างสรรค์และการแบ่งปันความคิดใหม่ๆ โดยเชื่อมโยงกับค่านิยมและวัฒนธรรมขององค์กร
✅ โครงสร้างองค์กรที่เหมาะสม เริ่มจากการจัดโครงสร้างองค์กรให้มีความยืดหยุ่นและเปิดกว้างพอที่จะเปิดโอกาสให้พนักงานเข้าร่วมในกระบวนการตัดสินใจและการสร้างนวัตกรรม
✅ การฝึกอบรมและพัฒนา ส่งเสริมการฝึกอบรมและพัฒนาที่เน้นการนำเสนอและการใช้งานเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เชื่อมโยงกับ SDGs เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะให้กับพนักงาน
✅ ระบบส่งเสริมและรางวัล สร้างระบบส่งเสริมและการกระตุ้นจูงใจผ่านการยกย่องและรางวัลเพื่อสนับสนุนการสร้างสรรค์และการพัฒนานวัตกรรมที่สอดคล้องกับ SDGs เช่น การตั้งเป้าหมายและรางวัลสำหรับการแก้ปัญหาที่เชื่อมโยงกับ SDGs
✅ พันธมิตรและเครือข่าย การสร้างพันธมิตรและเครือข่ายที่แข็งแกร่งกับองค์กรและหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้อง เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนานวัตกรรมที่สามารถสร้างผลประโยชน์ต่อ SDGs
✅ การติดตามและวัดผล สร้างระบบการติดตามและวัดผลที่ชัดเจนเพื่อวัดผลการดำเนินการและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากนวัตกรรมที่สร้างขึ้นตามแนวทางของ SDGs
โดยการใช้แนวคิดและวิธีการดังกล่าวข้างต้น เราสามารถช่วยกันกระตุ้นจิตสำนึกและสร้างการมีส่วนร่วมในการคิดสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมในองค์กรให้เป็นไปตามเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน