เปิดโลกพลังงานสีเขียวของไต้หวัน เรียนรู้แนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ♻️

บรรยากาศ Site Visit ในโครงการ 👉 Taiwan Study Mission: Advancing Green Productivity, Innovation, Technology and Circular Economy for a Sustainable Future เก็บเกี่ยวประสบการณ์ระดับนานาชาติถึงไต้หวัน เมืองที่เป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนและนวัตกรรมการผลิตสีเขียว ทั้งภาคการผลิต การบริการและการวิจัยพัฒนานวัตกรรม จากองค์กรชั้นแนวหน้าระดับสากล ที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนแห่งโลกอนาคต อาทิ E-SUN Bank สถาบันการเงินที่มุ่งสร้างความยั่งยืนด้าน ESG, Delta Electronics บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์พร้อมบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ ตลอดจน New Taipei City Resource Recycling Education Center เมืองต้นแบบที่ใช้ระบบจัดการขยะด้วยเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน โดยใช้แนวทางการจัดการแบบครบวงจรและมุ่งสู่ NET ZERO CITY 2050 เมื่อวันที่ 10-13 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา 

E-SUN Bank

ในธุรกิจทางด้านการเงินของไต้หวันถือว่าเป็นองค์กรใหม่ และก่อตั้งมาไม่นานเมื่อเทียบกับสถาบันการเงินอื่น ๆ และเป็นสถาบันการเงินที่พร้อมรับต่อการปรับตัว ดังนั้น E-SUN เองจึงต้องมีอัตราการเร่งในการเติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็วเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ มุ่งสู่การเป็นองค์กรชั้นนำของไต้หวันในธุรกิจทางด้านการเงิน โดยมี 132 สาขาในไต้หวัน อีกทั้งการลงทุนในอีก 11 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยให้ความสำคัญในเรื่องของดิจิทัลและความยั่งยืน มีเป้าหมาย NET ZERO ในปี คศ. 2050 

แนวทางการสร้างความยั่งยืนขององค์กรมี 3 แกนหลักในการสู่ความสำเร็จประกอบด้วย 

🟢 APPLY BEST PRACTICE STANDARD: SDG GRI DJSI ESG CDP SBTi etc. 

🟢 TRANSITION to GREEN BUSINESS: GREEN PRODUCTs and SERVICEs with Carbon Cost Management, Sustainability Management and Digital Technology 

🟢 ENGAGEMENT STAKEHOLDERs: 3 กลุ่มหลัก คือ 1. ลูกค้า 2. ผู้ถือหุ้นและผู้ส่งมอบ 3. ภาครัฐ สถาบันการเงิน และสังคม   

KEY SUCCESS FACTORS ที่สำคัญในการดำเนินการ ESG ให้ประสบความสำเร็จของ E-SUN มาจากความร่วมมือของทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชน E-SUN และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เป็นการทำงานร่วมกันอย่างรอบด้านและครอบคลุมทั้งวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำให้เกิดความเชื่อมโยง สอดประสาน บูรณาการร่วมกันอย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพเกิดประโยชนร่วมกัน สามารถยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของทั้ง Supply Chain

DELTA ELECTRONICS 

เป็นบริษัทชั้นนำของไต้หวันในเรื่องของการพัฒนาและผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในการบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ รวมถึงการใช้ Software และ Hardware ร่วมกับชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่สามารถประหยัดพลังงาน รวมถึงระบบควบคุมไอที ยานยนต์ โทรคมนาคม และภาคอุตสาหกรรม อาทิ เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV ระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติและโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูล โดยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนตามคำมั่นสัญญา Smarter Greener Together

DELTA มีการดำเนินการเพื่อมุ่งสู่ NET ZERO 2050 โดยมี Sustainable Key Performance 3 ด้านหลัก
ประกอบด้วย Economy + Environment + Society 

DELTA มีบริการที่สนับสนุนและให้ความรู้กับลูกค้าเพื่อหา Solution ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า รวมถึงพัฒนากระบวนการทำงานของบริษัทเองเพื่อสามารถให้บริการที่เป็นเลิศและสร้างความยั่งยืนร่วมกับลูกค้า จะพบว่าความสามารถสูงสุดของ DELTA คือการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ด้าน HIGH ELECTRONIC TECHNOLOGY โดยสามารถบูรณาการเครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ เครือข่าย เทคโนโลยี ระบบติดตามและประเมินผล รวมถึง Hardware Software ด้วยความอัจฉริยะ ให้องค์กรสามารถบริหารจัดการด้านพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดการปล่อย CO2 และมุ่งสู่ NET ZERO ได้ประสบความสำเร็จ

NEW TAIPEI CITY RESOURCE RECYCLING EDUCATION CENTER 

NEW TAIPEI CITY มีการเจริญเติบโตของเมืองและเศรษฐกิจที่รวดเร็วมาก และภาครัฐมีความประสงค์ที่จะพัฒนาระบบบริหารจัดการระบบบำบัดและพัฒนาเมืองเชิงธุรกิจ โดยใช้แนวการจัดการแบบครบวงจรและมุ่งสู่ NET ZERO CITY 2050 โครงการ RESOURCE RECYCLING EDUCATION CENTER จึงเกิดขึ้นเพื่อพันธกิจดังกล่าว  

สำหรับการดูงานในครั้งนี้ เป็นการดูงานโรงงานแยกขยะ ของ NEW TAIPEI CITY SPEC ใช้เทคโนโลยีในการแยกขยะ สามารถแยกขยะได้เป็น 56 ประเภท และสามารถแยกขยะ Recycle ได้ถึง 120,000 ตันต่อปี เป็นโครงการที่สนับสนุนในเรื่องของ ZERO WASTE CIRCULAR LIFE PROJECT  

ในการคัดแยกขยะขั้นต้น ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนที่สำคัญ ดังนี้

🟢 Sharp Eye Technology เป็นขั้นตอนที่เพิ่มความแม่นยำในการคัดแยกขยะที่มีลักษณะองค์ประกอบทางด้านเคมีของขยะ 

🟢 Flying Beam Technology เป็นขั้นตอนในการคัดแยกขยะที่มีรูปทรงและลักษณะภายนอกโดยวิเคราะห์จากการอ่านค่าลำแสงจากปล่อยจากเครื่องคัดแยก 

🟢 การวิเคราะห์จาก Near Infrared Spectroscopy (NIR) and Visible Light Source โดยการวิเคราะห์จากลักษณะและการสะท้อนแสงของขยะแต่ละประเภท 

หลังจากแยกขยะในเบื้องต้นจะเข้าสู่การแยกขยะที่จะไป Recycle โดยมีการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วย ทั้งนี้เนื่องจากปัจจัยสำคัญในเรื่องของการขาดแคลนแรงงาน สภาพแวดล้อมที่พนักงานไม่อยากทำงาน มีผลิตภาพที่ต่ำ ค่าตอบแทนที่ไม่จูงใจ การใช้ AI ในการจับภาพ เข้ามาทดแทนเป็นทางออกที่ดีที่สุด รวมถึงสามารถเก็บรวมรวมข้อมูลปริมาณและประเภทขยะได้ครบถ้วน ถูกต้อง และแม่นยำมากขึ้น อาทิ การคัดแยกกระดาษ พลาสติก กระป๋องเหล็ก อลูมิเนียม รวมถึงสีที่แตกต่างกันของพลาสติก