27 สิงหาคม 2024

เมื่อหัวหน้างานตเผชิญแรงกดดัน จะเปลี่ยนเป็นพลังสร้างสรรค์อย่างไร?  

 

 

 

ในโลกการทำงานที่รวดเร็วในปัจจุบัน ผู้บังคับบัญชาและผู้จัดการมักพบว่าตัวเองต้องเผชิญกับความกดดันอย่างมาก ความสามารถในการเปลี่ยนความกดดันนี้ให้กลายเป็นความหลงใหลหรือแรงบันดาลใจในการนำทีมเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ สามารถนำไปสู่ความพึงพอใจในงานที่สูงขึ้น ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และกลายเป็นทีมที่มีแรงบันดาลใจมากขึ้น บทความนี้จะสำรวจกลยุทธ์ที่ใช้ได้จริงเพื่อให้บรรลุการเปลี่ยนแปลงนี้ 

 

🌟 การยอมรับและการรับรู้ความกดดัน 

  1. เข้าใจแหล่งที่มาของความกดดัน: ระบุปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียด เช่น กำหนดเวลาที่แน่นอน ความคาดหวังสูง และข้อจำกัดด้านทรัพยากร
  2. การตระหนักรู้ในตนเอง: ส่งเสริมการสะท้อนตนเองเพื่อรับรู้สัญญาณและทริกเกอร์ของความเครียดส่วนบุคคล
  3. การสื่อสารเปิดใจ: ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่สมาชิกในทีมรู้สึกสบายใจในการพูดคุยเกี่ยวกับความกดดันของตน

 

🤯 กรณีตัวอย่าง  

คุณสมชาย ผู้จัดการฝ่ายการผลิต พบว่าตัวเองต้องเผชิญกับความกดดันจากการที่โรงงานต้องผลิตสินค้าให้ทันตามกำหนดเวลา เขาสังเกตว่าเขามักจะมีอาการปวดศีรษะและนอนไม่หลับ เขาจึงเริ่มเปิดใจคุยกับทีมเกี่ยวกับความกดดันที่ทุกคนเผชิญ และพบว่าหลายคนมีปัญหาเดียวกัน การรับรู้และยอมรับความกดดันนี้ช่วยให้ทีมของเขาร่วมมือกันหาแนวทางแก้ไขได้ 

🌟 การระบุและสร้างแหล่งที่มาของความหลงใหล 

  1. ค้นพบเป้าหมายใหม่: ทบทวนว่าทำไมคุณถึงเข้ามารับบทบาทนี้และองค์กรนี้ ตั้งเป้าหมายใหม่ที่สอดคล้องกับความสนใจของคุณ
  2. ตั้งเป้าหมายส่วนตัวและเป้าหมายทางวิชาชีพ: กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถบรรลุได้ที่สอดคล้องกับทั้งความสนใจของคุณและเป้าหมายขององค์กร
  3. เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง: ค้นหาโอกาสในการพัฒนาวิชาชีพเพื่อรักษาทักษะของคุณและรักษาความสนใจในงาน

🤯 กรณีตัวอย่าง 

คุณวิภา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด รู้สึกเบื่อหน่ายกับงานที่ทำอยู่ทุกวัน เธอจึงตัดสินใจเข้าร่วมการฝึกอบรมทางการตลาดออนไลน์เพื่อเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ และพบว่าตัวเองหลงใหลในวิธีการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ การตั้งเป้าหมายใหม่ในการพัฒนาทักษะด้านนี้ช่วยให้เธอกลับมามีแรงบันดาลใจอีกครั้ง 

🌟 การพัฒนาแผนการเปลี่ยนแปลง 

  1. ลำดับความสำคัญของงาน: ใช้เทคนิคเช่น เมทริกซ์ไอเซนฮาวร์ เพื่อแยกแยะระหว่างงานที่เร่งด่วนและสำคัญ ลดความสับสนวุ่นวาย
  2. การมอบหมายงานอย่างมีประสิทธิภาพ: มอบหมายงานให้สมาชิกในทีมที่มีความสามารถและความสนใจในงานนั้น
  3. สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี: ส่งเสริมวัฒนธรรมการสนับสนุน การยอมรับ และการชื่นชมเพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจและแรงจูงใจ

🤯 กรณีตัวอย่าง 

คุณธนา ผู้จัดการฝ่ายบุคคล พบว่าทีมของเขามีงานเยอะเกินไปและไม่มีใครรู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน เขาใช้เมทริกซ์ไอเซนฮาวร์ในการจัดลำดับความสำคัญของงานและพบว่า มีงานบางอย่างที่สามารถมอบหมายให้ทีมที่มีความสามารถเฉพาะด้านได้ ทำให้ทุกคนมีความชัดเจนและมุ่งมั่นในงานของตนเองมากขึ้น 

🌟 การลงมือทำและการนำไปปฏิบัติ 

  1. ยอมรับการเติบโตจากความท้าทาย: มองเห็นความท้าทายเป็นโอกาสในการเติบโตแทนที่จะเป็นภัยคุกคาม ส่งเสริมให้ทีมมีแนวคิดเดียวกัน
  2. ฝึกฝนการทำสมาธิและการจัดการความเครียด: รวมการฝึกสมาธิ เช่น การนั่งสมาธิและการหายใจลึก ๆ เข้าในกิจวัตรประจำวัน
  3. รับข้อเสนอแนะและปรับตัว: ขอความคิดเห็นจากเพื่อนร่วมงานและผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นประจำเพื่อระบุพื้นที่ที่ต้องปรับปรุงและทำการปรับเปลี่ยนตามนั้น

🤯 กรณีตัวอย่าง 

คุณนพ ผู้บังคับบัญชาฝ่ายขาย เริ่มรู้สึกว่าแรงกดดันจากการต้องทำยอดขายสูงสุดทำให้เขาเครียดเกินไป เขาตัดสินใจเริ่มฝึกการทำสมาธิและการหายใจลึก ๆ ทุกเช้า และพบว่ามันช่วยให้เขามีสติมากขึ้น และเมื่อเขาขอความคิดเห็นจากทีม ทีมของเขาเสนอแนะว่าควรมีการฝึกอบรมเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาทักษะการขายใหม่ ๆ ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วมและมีแรงบันดาลใจ 

🌟 การสะท้อนและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง 

  1. การประเมินตนเองเป็นประจำ: ทบทวนความก้าวหน้าในการเปลี่ยนความกดดันให้เป็นความหลงใหลเป็นระยะ ๆ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตามที่จำเป็น
  2. ฉลองความสำเร็จ: ยอมรับและเฉลิมฉลองความสำเร็จทั้งเล็กและใหญ่ เพื่อรักษาแรงบันดาลใจและความรู้สึกของความสำเร็จ
  3. ปรับตัวและพัฒนา: เปิดรับความยืดหยุ่นและแนวคิดใหม่ ๆ ในการจัดการความเครียดและส่งเสริมความหลงใหล

🤯 กรณีตัวอย่าง 

คุณปรียา ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ พบว่าการสะท้อนและทบทวนผลการทำงานของทีมทุกเดือนช่วยให้เห็นภาพรวมของความก้าวหน้าและปัญหาที่ต้องปรับปรุง เมื่อทีมประสบความสำเร็จในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เธอไม่ลืมที่จะจัดงานฉลองเล็ก ๆ เพื่อให้ทุกคนรู้สึกภูมิใจและมีแรงบันดาลใจในการทำงานต่อไป 

 

บทสรุป การเปลี่ยนแรงกดดันให้เป็นแรงบันดาลใจไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งเดียว แต่เป็นการเดินทางอย่างต่อเนื่อง โดยการรับรู้ความกดดัน ระบุแหล่งที่มาของความหลงใหล การวางแผน การลงมือทำ และการสะท้อนอย่างสม่ำเสมอ ผู้บังคับบัญชาและผู้จัดการสามารถเปลี่ยนความเครียดให้กลายเป็นแรงผลักดันสู่ความสำเร็จและความพึงพอใจได้ ยอมรับกลยุทธ์เหล่านี้เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีพลังและมีแรงบันดาลใจมากขึ้น 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

📎แนวทางการรับมือกับแรงกดดันในที่ทำงานในรูปแบบต่างๆ ผ่านเครื่องมือและเทคนิค คลิก

📎เปลี่ยนแรงกดดันเป็นพลังสร้างสรรค์ ฉบับผู้บังคับบัญชา คลิก

ค้นหาหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง

🔔 HR Mastery in Career Path Management: Practical Insights for Organizational Success คลิก 

🔔 Trust in the Workplace: Boosting Workforce Engagement (เสริมความแกร่งขององค์กรด้วยความผูกพันของบุคลากร) คลิก

🔔 ทักษะที่จำเป็นสำหรับ Productive Supervisor [Online Training] คลิก




Writer

โดย จำลักษณ์ ขุนพลแก้ว

ที่ปรึกษาอิสระด้านนวัตกรรมและการจัดการองค์กร