การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญที่เชื่อมผู้คนทั่วโลกเข้าด้วยกัน และด้วยเทคโนโลยีที่รุดหน้าไปสู่อนาคต ยิ่งทำให้การสื่อสารต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ทันกับกระแสดิจิทัล เทคโนโลยี 5G ที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในขณะนี้ คาดการณ์ว่าจะมาพร้อมกับความก้าวหน้าใหม่ๆ ที่จะช่วยให้มนุษย์สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่ประเทศไทยได้ทำการประมูลคลื่นความถี่ 4G ไปเมื่อปีที่แล้ว ยุโรปกำลังมุ่งพัฒนาผลักดันให้เทคโนโลยี 5G เป็นมาตรฐานใหม่คณะกรรมาธิการยุโรปร่วมกับ 5G PPP (5G Public-Private Partnership) ผู้ประกอบการจากภาคอุตสาหกรรมและภาคการวิจัย ได้จัดทำและเผยแพร่ White Paper (เอกสารให้ข้อมูลต่อประชาชนทั่วไป) ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี 5G ในสหภาพยุโรป ผ่านการประชุม Mobile World Congress ที่กรุงบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
เอกสารดังกล่าวใช้ชื่อว่า 5G Empowering Verticals นำเสนอประโยชน์ของเทคโนโลยี 5G ว่าจะทำการปฏิรูปในเชิงแนวตั้ง (vertical sectors) ทั้งในภาคส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ การขนส่ง การอนามัย การผลิต รวมทั้งด้านสื่อและการบันเทิง ต่าง ๆ โดยมองว่าตลาดแนวตั้ง (Vertical markets) เป็นตลาดที่เน้นสินค้าตามความต้องการของผู้บริโภค (specialised needs)
White paper ระบุว่าการผลักดัน Industrial Revolution 4.0 จะเกิดขึ้นในทศวรรษที่จะมาถึง โดยโครงสร้างของ 5G จะช่วยสนับสนุนการ digitalisation ของเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปและผลักดันการปฏิวัติอุตสาหกรรมดังกล่าว อุตสาหกรรมการผลิตจะเปลี่ยนผันตนเองไปสู่การการกระจายตัวของการผลิต (distributed organisation of production), สินค้าที่มีความเชื่อมโยงต่อกัน (connected good) ขั้นตอนที่ใช้พลังงานต่ำ (low energy processes), collaborative robots และการบูรณาการระหว่างภาคการผลิตและการขนส่ง (integrated manufacturing and logistics)
โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม ยานยนต์ และการขนส่งจะมีการนำเอายานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองได้ (autonomous) และยานยนต์ที่สื่อสารระหว่างกัน (cooperative) มาสู่ตลาดได้ภายในปีคศ. 2020 ในขณะที่ภาคพลังงาน การพัฒนาของเทคโนโลยีพลังงานทดแทนจะผลัดดันให้โครงสร้างไฟฟ้าอย่างดั้งเดิม (traditional power grid) กลายเป็นเครือข่ายการจ่ายไฟอัจฉริยะ รวมทั้งมีการใช้มาตรวัดไฟอัจฉริยะในครัวเรือนอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ในภาค Digital Media จะมีการพัฒนา Integration of broadcast TV และภาคส่วนสุขภาพและอนามัยจะมีการพัฒนา E-heath M-health และนำไปสู่การให้บริการด้านสุขภาพอนามัยที่เหมาะสมต่อแต่ละปัจเจกบุคคล (personalised or individualised Healthcare)
กรรมาธิการด้าน Digital Economy และสังคม นาย Günther H. Oettinger กล่าวว่าในวิสัยทัศน์ของเขาสำหรับ 5G นั้นไม่เป็นเพียงความเร็วของการสื่อสารที่เพิ่มขึ้น หรือ bandwidth ที่สูงขึ้นเท่านั้นแต่เป็นการสร้าง communication platform เพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูป digital revolution ซึ่งหมายถึงการให้บริการทางสังคม ด้านสาธารณูปโภค การผลิต การดูแลสุขภาพ การเกษตรและกสิกรรม โดยโครงข่าย 5G จะช่วยในการสร้างผลิตภัณฑ์และการให้บริการรูปแบบใหม่ที่มีความอัจฉริยะผ่านระดับการเชื่อมโยงที่สูงขึ้น
นอกจากนี้นาย Oettinger ได้กล่าวย้ำต่อที่ประชุมว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 5G จะต้องเริ่มในวันนี้แล้ว โดยเฉพาะการลงทุนจากภาคอุตสาหกรรม และภาคส่วนดังกล่าวควรจะต้องมีส่วนร่วมในการสนทนาถึงแนวทางการพัฒนากับผู้ ให้บริการด้านโทรคมนาคมและภาคการผลิตอุปกรณ์ แผนการดำเนินการ 5G ของยุโรปต้องครอบคลุมทุกภาคส่วนและมีการลงมือสร้างเครือข่ายในเวลาที่เหมาะหากยุโรปต้องการเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีดังกล่าว
White Paper ดังกล่าวมีสาระสำคัญดังนี้
1. 5G จะทำการเปลี่ยนแปลงโครงข่ายโทรคมนาคมให้เป็น intelligent orchestration platforms ซึ่งจะเตรียมความพร้อมสำหรับรูปแบบการพัฒนาธุรกิจและชุดความคิดใหม่ ๆ ผ่านความสัมพันธ์ระหว่าง vendors, operators และ
2. 5G จะบูรณาการเทคโนโลยีต่าง ๆ อย่างไร้รอยต่อ (เช่น ระหว่างเทคโนโลยี mobile, fixed, satellite, และ optical)
3. การดำเนินการ 5G สำหรับตลาดแนวตั้ง (vertical market) ในสหภาพยุโรปภายในปีคศ. 2020 ควรจะเป็นจุดประสงค์หลัก
4. ค่าความเฉื่อย Latency (ที่ต่ำกว่า 5ms) และความ reliability (5 nines and beyond) และ density (มากถึง 100 devices ต่อ ตารางเมตร และ peak terminal data rate เป็นค่าตัวชี้วัดที่สำคัญที่ 5G ต้องสามารถทำได้ภายใต้ข้อกำหนดด้านประชากรและพื้นที่
5. การลำดับความสำคัญของคลื่น (identify spectrum priorities) คำนึงถึง Vertical use cases
ในปัจจุบันไทยเป็นหนึ่งใน 124 ประเทศที่มีระบบ LTE สเปน ฟินแลนด์และเดนมาร์คเป็นสามประเทศที่มีระบบ LTE ที่มีความเร็วสูงที่สุด (17-18 Mbps) และเกาหลีใต้ ญี่ปุ่นและคูเวต มีเครือข่ายที่ครอบคลุมมากที่สุด (ร้อยละ 95 86 และ 83) บริษัท Goggle มีแผนที่จะพัฒนาการกระจายสัญญาณ 5G ผ่านยานอากาศที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ภายใต้โครงการ Project Skybender คาดว่าจะสามารถให้สัญญาณที่มีความเร็วสูงกว่า LTE ได้ถึง 50 เท่าตัว
ที่มา: https://www.neweurope.eu/article/5g-can-boost-the-fourth-industrial-revolution/