2 มิถุนายน 2016

เทคโนโลยี

จากการเข้าร่วมงานนิทรรศการแสดงนวัตกรรมด้านอิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก “ซีอีเอส เอเชีย” (CES Asia) ประจำปี 2016 ทำให้เห็นกลุ่มผู้ผลิต smartphone มาร่วมงานน้อยมาก อีกทั้งยังนำเสนอเทคโนโลยีที่พบเห็นได้ทั่วไป แสดงให้เห็นการพัฒนาเทคโนโลยีของ smartphone เข้าสู่ช่วงชะลอตัว เนื่องจากความต้องการของตลาด smartphone เปลี่ยนแปลงไปเน้นการอัพเกรดฟังก์ชั่นและแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่สามารถเชื่อมและควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต รวมถึงสามารถบันทึกและประมวลผลข้อมูลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในเรื่องต่างๆ เช่น การออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ เป็นต้น โดยในงานยังพบเห็นนวัตกรรมซึ่งทำหน้าที่ในลักษณะเดียวกันนี้ในรูปแบบของหุ่นยนต์ขนาดเล็กหลากหลายโมเดลจากผู้ผลิตจำนวนมาก ยิ่งเป็นการยืนยันทิศทางของรูปแบบนวัตกรรมที่ต้องสามารถเชื่อมโยง สื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ โดยไม่ต้องผ่านบุคคล หรือที่เรียกว่าเทคโนโลยี “Internet of Thing (IoT)  ซึ่งได้ถูกพัฒนาไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น รถยนต์ที่สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ตามสภาพอากาศ พื้นถนน การขับทางตรงบนถนนไฮเวย์ หรือขับขึ้นภูเขา จนถึงสามารถตรวจจับสภาพการจราจร และปรับไปสู่โหมดที่รถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังสามารถสื่อสารข้อมูลในการขับขี่ไปยังอุปกรณ์ดิจิตอล อาทิ Smartwatch หรือ Smartphone  ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถวางแผนการเดินทาง หรือท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถแจ้งให้บ้านที่มีนวัตกรรม smart home เปิดแอร์ หรือเปิดไฟเมื่อรถใกล้จะถึง นอกจากนี้ข้อมูลการใช้งานของอุปกรณ์ หรือเครื่องยนต์จะถูกบันทึกตลอดการใช้งาน และแจ้งให้เจ้าของทราบถึงระยะเวลาซ่อมบำรุง รวมถึงชิ้นส่วนที่ชำรุดและต้องปรับเปลี่ยน เรียกได้ว่ารถยนต์รุ่นนี้ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงในการขับขี่แก่ผู้ใช้งาน ไม่เพียงแค่นั้นยังส่งผลต่อรูปแบบบริการที่เกี่ยวข้องแตกต่างจากเดิม เช่น บริษัทประกันภัยรถยนต์จะกำหนดรูปแบบการจ่ายและขอเคลมประกันที่สอดคล้องกับข้อมูลสภาพการขับขี่ รวมถึงข้อมูลที่ถูกบันทึกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ บริษัทเช่ารถก็สามารถนำข้อมูลการขับขี่นี้ไปเลือกรถที่เหมาะสมสำหรับลูกค้า เป็นต้น

เทคโนโลยี loT ยังมีการพัฒนาร่วมกับเทคโนโลยีความจริงเสมือน หรือ Virtual Reality-VR ยิ่งทำให้เกิดคุณค่าเพิ่มมากขึ้น เช่น เมื่อนำไปใช้ในการติดตามการแข่งขันกีฬาผ่านมือถือหรือแท็บเล็ต ทำให้ได้รับมุมมองและอรรถรสที่แตกต่าง เพราะทำให้ได้เห็นข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้อง จนทำให้สามารถคาดเดาผลการณ์แข่งขันที่น่าจะเกิดขึ้นได้ เป็นต้น ซึ่งในงานนิทรรศการนี้ เทคโนโลยีความจริงเสมือน ดูจะได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมจำนวนมาก ซึ่งจะพบเห็นผู้ผลิตนำเสนอแว่นตา หรืออุปกรณ์ดูภาพความจริงเสมือนในรูปลักษณ์ และรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น ทำให้ผู้เล่นเกมส์ รู้สึกเสมือนเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ ยิ่งเมื่อผู้เล่นสามารถทำท่าทางควบคุมเครื่องมือ หรืออาวุธได้เหมือนใช้งานจริง ผู้เล่นจะยิ่งรู้สึกสนุกตื่นเต้น อีกตัวอย่างเป็นการนำไปใช้เพิ่มความตื่นเต้นขณะปั่นจักรยานออกกำลังกายที่บ้าน หรือในฟิตเน็ต โดยผู้ใช้จะมองเห็นภาพพื้นที่ในขณะปั่นจักรยานเปลี่ยนไปตามความเร็ว ความชัน รวมถึงแสดงข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ เป็นต้น

อีกเทคโนโลยีที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในวงการศิลปะ ภาพยนต์ โฆษณา คือ RealSense™ SDK Face Scans ซึ่งสามารถสแกนใบหน้าจากตำแหน่งต่างๆได้อย่างละเอียด และทำการสร้างภาพเสมือนจริง โดยในงานทางผู้ผลิตได้นำภาพใบหน้าของผู้ถูกสแกนไปแทนใบหน้าตัวละครในพงศาวดารจีน และนำเสนอเป็นคลิปวิดิโอสั้นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

Drone หรืออากาศยานควบคุมระยะไกล ก็เป็นอีกนวัตกรรมที่มีการนำเสนอความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี ทั้งการถ่ายภาพในระบบ 4K หรือ Ultra High Definition ซึ่งมีความละเอียดสูงกว่า Full HD ทั่วไปถึง 4 เท่า รวมถึงความสามารถในการสร้างพลังงานด้วยตัวเองจนสามารถทำการบินได้ระยะทางไกลขึ้น ซึ่งพบว่าการแข่งขันพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับนวัตกรรมโดรนมีความก้าวหน้า และเติบโตสูงมาก เพื่อตอบสนองการนำไปใช้ในรูปแบบต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้นในทุกภาคอุตสาหกรรม

แต่เทคโนโลยีที่น่าทึ่งมากกว่า คืออุปกรณ์ช่วยในการเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับอารมณ์ หรือลักษณะของบุคคล ด้วยการสวมใส่อุปกรณ์ที่จะทำการตรวจจับคลื่นสมองในขณะที่บุคคลนั้นกำลังดูภาพต่างๆ เช่น ภาพแมว ภาพบรรยากาศท้องทะเล ภาพบรรยากาศในการออกกำลังกาย เป็นต้น แล้วทำการประมวลผลข้อมูลเปรียบเทียบกับข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ จากนั้นระบบนำเสนอรูปแบบสีสรร ลวดลายเสื้อผ้าที่เหมาะกับบุคคลนั้น ซึ่งหากเทคโนโลยีนี้ได้รับการพัฒนาจนสมบูรณ์ยิ่งขั้นคงส่งผลต่อพฤติกรรมการตัดสินใจเลือกซื้อเสื้อผ้าของผู้คนในอนาคตอย่างมาก และผู้ผลิตเสื้อผ้าคงต้องปรับตัวกันไม่น้อย

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีอย่างเครื่องพิมพ์สามมิติ หรือ 3D printer ที่ได้รับการพัฒนาจนเกือบจะกลายเป็นสิ่งปกติที่สามารถซื้อหาได้ทั่วไป สำหรับใช้ในงานประเภทต่างๆ ตั้งแต่ผลิตของเล่นใช้ในบ้าน จนถึงอุปกรณ์เครื่องมือขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรม หรืออุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ หรือ Wearable เช่น หูฟัง เครื่องประดับ รองเท้า ที่ปรับเปลี่ยนทั้งรูปลักษณ์และความสามารถบันทึกข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้อง และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆที่จำเป็น รวมถึงแสดงผลข้อมูลที่เป็นประโยชน์ นอกจากนี้ยังมี บาลิสต้าแขนกลที่สามารถชงกาแฟรสชาติที่แตกต่างกัน พร้อมๆกัน โดยไม่ต้องเสียเวลาทำขั้นตอนเดิมซ้ำไปมา

อย่างไรก็ตาม แม้ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทำให้เกิดนวัตกรรมแปลกใหม่มากมาย แต่ก็ต้องตอบความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าให้ได้ โดยคำนึงถึงคุณค่าที่ลูกค้าได้รับ และต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น อย่างที่ผู้บริหาร BMW กล่าวไว้ว่า “ BMW เป็นเพียงผู้ผลิตรถยนต์รายเล็ก ที่กล้าพัฒนานวัตกรรมแห่งอนาคต”

ที่มา: คอลัมน์ Productivity Food for Thought  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ




Writer

โดย ดร.ต่อเกียรติ น้อยสำลี

• วิทยากรอิสระ และผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการและพัฒนานวัตกรรม
• ให้การฝึกอบรมด้านการสร้างผู้นำเชิงปฏิรูป การปฏิรูปทีมงาน การปรับปรุงผลการดำเนินงานของทีมงาน การวางแผนกลยุทธ์ คิดเชิงกลยุทธ์ การคิดอย่างเป็นระบบ การแก้ปัญหาและการตัดสินใจ การบริหารโครงการ การพัฒนาและสร้างนวัตกรรม ให้กับภาคผลิตและภาคบริการ