เมื่อคนเรานั้น “ช่างแสนรู้” โดยเฉพาะเรื่องของคนอื่น ดังเช่นนิทานอีสปเรื่อง “เจ้าของโรงสี ลูกชาย และลา”
เหมือนเช่นในชีวิตจริงที่เรามักได้รับคำแนะนำจากใครๆ ให้ทำในสิ่งที่ผู้แนะนำรู้สึกว่าดีต่อเรา บนสิ่งที่เขามองเห็นและเชื่อว่าดี แต่หลายครั้งที่คำแนะนำเหล่านั้นหาได้เหมาะสมกับเราไม่
ในมิติทางการเงิน เรามักพบเห็นผู้หวังดีแนะนำให้ลงทุน ชักชวนให้เล่นแชร์ ชวนทำประกัน เสนอให้แก้ปัญหาการเงินด้วยวิธีต่างๆ นานา หรือบางครั้งก็เป็นตัวท่านเองที่ร้องขอความเห็นจากคนอื่น เช่น ตอนนี้ซื้อกองทุนไหนดี? ปีใหม่แล้วหุ้นตก ทองคำทำท่าจะขึ้น ควรซื้อทองดีไหม? ลงทุนขายเสื้อผ้า online เลยดีไหม? และอีกหลายคำถาม
คำแนะนำบางครั้งก็มากไป ขาดความเข้าใจในนิสัยการออม ไม่สอดคล้องกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หรือบ้างก็แนะนำเพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งสุดท้ายแล้ว…บทเรียนทางการเงินจากนิทานเรื่องนี้ที่ทุกท่านควรจะได้รับ คือ การตัดสินใจทางการเงินใดๆ ควรทำด้วยตัวเอง บนผลประโยชน์และเงื่อนไข ที่ได้ชั่งน้ำหนักแล้วว่าเหมาะสมกับเป้าหมายและสถานการณ์ ณ ขณะนั้น เพราะไม่มีใครจะรู้เงื่อนไขและความต้องการของตัวท่านได้ดีไปกว่า…<โปรดเติมคำในช่องว่าง>…